• "ลิ้นคนมันยาวนะ อยู่เฉยๆ มันก็แลบไปถึงโน่น ทะเล อยากกินของทะเล เดี๋ยวก็แลบไปถึงเมืองนอก  อยากกินของจากเมืองนอก  ต้องฝึกให้มันหดเข้าซิ"ฯ
  • "เวลากินข้าวให้ใจอยู่กับลม แล้วพิจาณาดูว่า เรากินเพื่ออะไร ถ้าเรามัวแต่กินพื่อเอร็ดอร่อย อาหารที่กินเข้าไปนั้นให้โทษกับเราได้"ฯ
  • เมื่อท่านพ่อกลับจากอเมริกาใหม่ๆ มีศิษย์คนหนึ่งถามท่านว่า ได้มีโอกาสฉันพิซซาที่นั้นบ้างหรือเปล่า  ท่านก็รับว่าได้ฉันและหอมอร่อยด้วย ที่ท่านตอบอย่างนี้ ทำให้ลูกศิษย์ที่ไปอเมริกาด้วยแปลกใจ  จึงพูดกับท่านว่า "เห็นท่านพ่อฉันแค่สองคำ นึกว่าท่านคงไม่ชอบ" ท่านพ่อก็ตอบว่า "กินคำสองคำก็อิ่มแล้ว จะให้กินเพื่ออะไรอีก"ฯ
  • บางครั้งมีโยมที่ตั้งใจดีแต่ขาดการพิจารณาเข้ามาหาท่านพ่อแล้ว ถามในสิ่งที่ไม่ควรถาม ท่านพ่อจะหาคำตอบที่จะให้เขาสำนึกตัวบ้าง เช่น ครั้งหนึ่งมีโยมคนหนึ่ง นึกอยากจะทำอาหารถวายท่านพ่อ จึงถามท่านว่า "ท่านพ่อคะ ท่านพ่อชอบฉันอะไร" ท่านก็ตอบว่า "ชอบฉันของที่มีอยู่"ฯ
  • คืนวันหนึ่ง มีลูกศิษย์กลุ่มหนึ่งนั่งรถจากกรุงเทพฯ ไปวัดธรรมสถิต พอดีมีคนอื่นฝากส้มหนึ่งเข่งไปถวายวัดด้วย ในระหว่างทางมีศิษย์หัวใสคนหนึ่งนึกอยากกินส้ม จึงชวนเพื่อนให้กินด้วย โดยอ้างว่า  "เราเป็นลูกท่านพ่อ ท่านคงอยากให้เรากิน ถ้าคนไหนไม่กินก็ไม่ใช่ลูกท่านพ่อ" บางคนในรถกำลังถือศีลแปดจึงรอดไป นอกจากนั้นทุกคนช่วยกันกินมากบ้างน้อยบ้าง  ทั้งๆที่บางคนกินแล้วรู้สึกไม่สบายใจ พอถึงวัดก็เล่าให้ท่านพ่อฟัง ท่านก็เลยว่าอย่างเสียหายว่า คนไหนกินของวัดไม่ได้ถวายพระก่อนก็จะต้องเกิดเป็นเปรต ศิษย์คนหนึ่งเกิดตกใจมาก จึงรีบแก้ตัวว่า "ก็หนูกินแค่กลีบเดียวท่านพ่อ" ท่านก็ตอบว่า "ไหนๆ จะตกเป็นเปรต น่าจะกินมากๆ จะได้อิ่ม"ฯ
  • ในระหว่างพรรษา พ.ศ. ๒๕๒๐ มีสามีภรรยาคู่หนึ่งมาฝึกภาวนากับท่านพ่อที่วัดเป็นประจำแทบทุกวัน มีแปลกอยู่อย่างหนึ่ง คือเวลามีอาการอะไรเกิดขึ้นก็มักจะคล้ายๆกันพร้อมๆกันทั้งคู่ ครั้งหนึ่งทั้งสองคนเกิดอาการกินข้าวไม่ลง เพราะเห็นแต่ความปฏิกูลในอาหาร เป็นมา ๓-๔ วัน จึงสงสัยตัวเองว่า ได้ปฏิบัติธรรมถึงขั้นไหนแล้ว พอดีมีโอกาสมาหาท่านพ่อที่วัดแล้วเล่าความสงสัยให้ท่านฟัง ท่านก็เลยให้นั่งภาวนาแล้วบอกว่า "ให้พิจารณาอาหารดูซิว่าเป็นอะไร ก็เป็นแค่ธาตุใช่ไหม แล้วตัวเราเองคืออะไร ก็เป็นธาตุเหมือนกัน ธาตุก็ต้องอาศัยธาตุบำรุง จึงจะอยู่ได้ แล้วจะมาถืออะไรนักหนา ว่าเขาสกปรกปฏิกูลเหมือนกัน ที่พระพุทธเจ้าสอนให้เห็นความปฏิกูลในอาหาร ก็เพื่อกำจัดความลุ่มหลงไม่ใช่สอนเพื่อให้กินข้าวไม่ได้"
    ปัญหาที่ว่ากินข้าวไม่ลงนั้น  เลยหายไปฯ

 

Go to top